เป็นสาวกเทคโนโลยี
ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ เทคโนโลยีแล้วล่ะ ก็จะรู้เลยว่าไม่มีวันหยุด สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆยิ่งเราวิ่งตามเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งไหลออกจากกระเป๋ามากขึ้นเท่านั้นและนั่นก็ทำให้รายได้ ที่มากขึ้น ไม่เคยพอ ต่อการตามเทรนด์เหล่านี้ไม่ผิดถ้าจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ไม่แปลกถ้าจะมีอุปกรณ์คู่กายไม่ใช่เรื่องเกินจำเป็นหากจะมีอุปกรณ์พกพามากกว่า 1 ชิ้น เพียงแต่เราต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราซื้อให้เต็มที่และคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ
ไม่สนใจ อนาคต
เมื่อเจอกับปัญหา หลายคนเลือก ที่จะเดินหนีหันหลัง ให้หรือบ่ายเบี่ยงไปทำอย่ างอื่นและปัญหาก็ยังคงกองอยู่ตรงหน้า เหมือนเดิม แถมอาจหนักขึ้นจนเข้าขั้นวิกฤติได้ ในอนาคต ในเรื่องของการเงิน ก็เช่นกัน หลายคนสนใจ กับความสุขในวันนี้กินอิ่ม ปาร์ตี้สนุกเที่ยวบ่อย ใช้ให้เต็มที่ ทั้งที่รู้ว่ายังไม่มีเงินเก็บสำหรับอนาคตไม่มีเงินสดสำหรับ ย ามฉุกเฉิน ไม่เคยวางแผนการเงินไม่เคยแม้แต่จะลงมือทำ และปัญหา ก็ยังคงเป็นปัญหาเช่นเคย คงดีกว่าไม่น้อยถ้าการตัดสินใจ ใช้เงินทุกครั้งเรา ได้ฉุกคิดถึง อนาคต บ้างบ้านผ่อนหมดยังหนี้บัตรเครดิตจ่ายเต็มวงเงินแล้วใช่มั้ย เงินก้อนที่ตั้งใจเก็บตอนนี้ ได้เท่าไหร่เกษียณที่ว่าต้องใช้เงินเยอะเรามีแค่ไหนแล้ว ? หัดอดเปรี้ยวไว้กินหวานบ้าง
ใช้เงินเพิ่มขึ้น
ไม่ผิดหรอกถ้าคิดว่า อย ากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่อย่ าลืมว่าชีวิตที่ดีขึ้นไม่จำเป็นต้องมากับรายจ่ายที่มากขึ้นเพียงอย่ างเดียวลองใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นเลิกเป็นนักสะสมแค่นี้ก็ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้เพ ราะถ้าได้เงินเดือนเพิ่มแล้วใช้จ่ายเพิ่ม (มากกว่าเงินเดือนที่เพิ่ม)สุดท้ายอาจได้แค่ อย าก มีชีวิตที่ดีขึ้นเพ ราะพฤติก ร ร มมือเติบอาจก่อให้เกิด ปัญหาตามมาโดยเฉพาะหนี้สิน ที่พอกพูนแบบไม่ทันตั้งตัว
ไม่สนใจ หนี้
น้อยคนนักที่จะ ไม่มีหนี้ แต่คนมีหนี้ จำนวนมากกลับ ให้ความสำคัญ กับการ ชำระหนี้ น้อยมากหรือบางคนไม่ให้ ความสำคัญ กับการจัดการหนี้เลยและนั่น ก็ย่อมทำให้เขาเหล่านั้น ตกอยู่ในวังวนของ หนี้ อย่ างไม่มีทางหลุดพ้นได้เพ ราะเมื่อได้เงินมา ก็มัวแต่สนุกกับการใช้จ่าย กระทั่งดอกเบี้ย (หนี้) ทบต้นไปเรื่อย ๆในทางตรงกันข้ามคน ที่อย ากรวยจะ กลัวหนี้ มากพวกเขา จึงให้ความสำคัญ กับ หนี้ เป็นอันดับแรกเมื่อมีรายได้เข้ามาก็จะรีบชำระหนี้ก่อนสิ่งอื่นใด จนกระทั่งเป็นไทปลด ระวางหนี้ได้สำเร็จ
ไม่เคยจดเรื่อง เงิน ของตัวเอง
เข้าห้องประชุมก็จดนายสั่งงา นก็จดไปฟังสัมนาก็จดจด ทุกเรื่องที่ทำ เพื่อคนอื่นแต่หลายคนไม่เคยแม้แต่จะจดเรื่อง เงิน ของตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องที่ดีกับตัวเองแท้ ๆ เพียงเ พราะคิดว่า เรารู้อยู่แล้ว ว่ารับจ่าย ออมเท่าไหร่จริงอยู่ที่เราอาจรู้ ความเคลื่อนไหว เงินที่เข้า-ออกในกระเป๋าแต่นั่นอาจเป็นแค่ก้อนใหญ่ ๆเท่านั้ น(เงินเดือน – หนี้บัตรเครดิต (รวม )– หนี้บ้านต่อเดือนฯลฯ)แต่รายจ่ายจิปาถะกาแฟ ขนมเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายปลีกย่อยก่อนจะรวมเป็นหนี้บัตรเครดิตก้อนใหญ่ หลายคนไม่เคยแม้แต่จะสนใจและนั่นก็เป็น รูรั่ว เล็ก ๆ แต่สร้างผลกระทบ ยิ่งใหญ่ ต่อสถานะการเงิน โดยที่เราไม่รู้ตัว
คิดว่า เร็วเกินไปที่จะออมเงิน
ในวันที่เรายังตื่นตาตื่น ใจกับสิ่งรอบ ตัวอันนู้นก็ใช่อันนี้ก็อย ากได้อันนี้ก็กำลังมองหา ภาพลวงของ ความจำเป็น ผุดขึ้นมาตรงหน้าและทำให้เราเสียทรัพย์อยู่เสมอทั้งที่สิ่งเหล่านั้นอาจเป็นแค่ ความต้องการ มีก็ดีไม่มีก็ได้ เลิกผัดวันประกันพรุ่งแล้วเริ่มออมเงินเดี๋ยวนี้จะสิบร้อยพันหมื่นก็ถือว่า เราได้เริ่มต้นแล้วหลังจากนั้นสร้างวินัยให้กับตนเองด้วยการออมต่อเนื่องสม่ำเสมอแม้จะไม่อย ากออมก็ตาม เ พราะวินัย คือการทำสิ่งที่ ต้องทำ แม้จะ ไม่อย ากทำ ก็ตาม
แยกไม่ออกว่า จำเป็น หรือ ต้องการ
วิธีการแยกง่ายที่สุด ก็คือต้องรู้ว่า สิ่งไหนต้องมี (จำเป็น) ขา ดไปแล้วจะใช้ชีวิต ไม่ได้อย่ างเช่นปัจจัย 4 หรือสิ่งไหนมีก็ดีไม่มีก็ได้ (ต้องการ) ขา ดไปแล้ว ยังใช้ชีวิตได้แต่ถ้ามีแล้วชีวิตจะดีขึ้น เช่นอาหารจาน หรูเสื้อ ผ้าแบรนด์เนมหรือสิ่งไหนไม่จำเป็นต้องมีแต่ถ้าแยกไม่ได้ และเอาอารมณ์ เป็นที่ตั้งอาจเป็นเหยื่อภาพลวงของ ความจำเป็น มันจะทำให้เรามี แต่จ่ายกับจ่ายไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่เคยตั้ง งบประมาณ ในการใช้เงิน
บริษัทก็ยังมีงบการเงินทำโปรเจคยังต้องมีประมาณการณ์ ค่าใช้จ่ายเรื่องการเงินส่วนบุคคลก็เช่นกันหลายคนไม่เคยตั้ง งบประมาณ การใช้เงินเลยจะช้อปปิ้งปีใหม่จะเที่ยวจะซื้อเสื้อผ้าก็จัดเต็มและสุดท้ายก็เกินความจำเป็น เกินกำลังทรัพย์ของตัวเองและกลายเป็น หนี้ ในท้ายที่สุด วิธีการที่ง่ายกว่าก็คือ ตั้งงบประมาณ การใช้เงินทุกครั้ง เช่น จะซื้อของวาเลนไทน์ให้คนรักไม่เกินกี่บาท,จะไปเที่ยวทริปกลางปีงบประมาณรวมเท่าไหร่หลังจากนั้นยึดมั่นกับสิ่งที่ตั้งไว้ทำตามแผนไม่ใช้เกินงบรับรอง ว่าเราจะตัดสิ่ง ที่ไม่จำเป็นออกไปได้อย่ างง่ายดาย
ที่มา : lifein-hug