นพ.สุรพงษ์ แนะหลักการใช้ ฟ้าทะล ายโ จ รที่ถูกต้อง ลดอาการป่ ว ย
วันนี้ 19 ก.ค. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรั ฐมนตรี ผู้ประสานง า นกลุ่มแคร์ ได้เขียนบทคว าม เ รื่ อ ง รอตรวจ รอเตียง อย่ารอต า ย โดยกล่าวถึงการใช้ ฟ้าทะล ายโ จร สำหรับการป้องกันโ ร ค และบบรเทาอาการ ซึ่งมีรายละเอี ยดที่สำคั ญดังนี้
หลักการสำคั ญของการรับมือกับโ ร คระบ าดคือ
ก) การป้องกันไม่ให้ป่ ว ย
ข) การควบคุมโ ร คไม่ให้แ พร่ ระบ าด
ค) การรั กษ าโ ร คที่ได้ผ ล
เมื่อโ ค วิ ด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งแพ ร่ร ะบ าดอย่ างรวดเร็ว และทะล วงฝ่ าวั ค ซี นทุกชนิดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ทำให้จำนวนผู้ป่ ว ยใหม่รายวันเพิ่มขึ้นอย่ างก้าวกระโด ดในประเทศต่าง
สิ่งที่ต ามมาคือ ถ้าประเทศใดมีการฉี ด วั ค ซี นของกลุ่ม เ สี่ ย ง (ผู้สูงอายุและผู้มีโ ร คประจำตัว) ในอัตราต่ำ ผู้ป่ ว ยหนักจะมีจำนวนม าก เตียงรองรับไม่ทัน มีผู้ป่ ว ยต กค้ างรอเตียงและกว่าที่จะเข้าสู่ระบบการรั กษ าได้ อาการก็ท รุ ดหนักและเสี ย ชี วิตในเวลาอันสั้น ในทางกลับกันถ้าประเทศใดมีการฉี ด วั ค ซี นของกลุ่ม เ สี่ ย ง ในอัตราสูง แม้มีผู้ป่ ว ยใหม่รายวันม าก แต่ผู้ป่ ว ยหนักและผู้เสี ย ชี วิตจะมีจำนวนน้อย ไม่มีปัญหาเ รื่ อ งเตียงรองรับการรั กษ า
ดั งนั้ น ยุ ทธศาสตร์สำคัญที่สุ ดของการสู้โ ค วิ ดจึงไม่ใช่อยู่ที่การกดจำนวน ผู้ป่ ว ยใหม่ แต่คือการกดจำนวน ผู้ป่ ว ยหนัก เพื่อให้ระบบสาธารณสุ ขสามารถดูแลได้รวดเร็วและทั่วถึง จ นมีผู้เสี ย ชี วิตน้อยที่สุ ดเท่าที่จะเป็นไปได้ เฉกเช่นเดียวกับที่เราไม่สนใจม ากนักกับตัวเ ลขผู้ป่ ว ยรายวันของโ ร คประจำถิ่น อย่ าง ไข้หวัดใหญ่หรือโ ร คหัด เพราะอัตราต า ยต่ำม าก ดั งนั้ น ถ้าผู้ป่ ว ยหนักและผู้เสี ย ชี วิตจากโ ค วิ ดมีจำนวนน้อย เราก็จะไม่จำเป็นเฝ้าร ะวั งตัวเ ลขผู้ป่ ว ยใหม่รายวันของโ ค วิ ดอีก
ถึงวันนี้ เราต้องยอมรับแล้วว่า การตั้งรับด้วยมาตรการส่วนบุคคลทำไม่ได้ 100% (ทำไม่ได้ทุกคนและทุกเวลา) การปิดประเทศไม่สามารถทำได้ตลอดไป ภูมิคุ้ มกันจากวั ค ซี นก็ไม่ย าวนานและอาจต้องมีการฉี ดต่อเนื่องทุกปี ยิ่งมีการกลายพันธุ์ของโ ค วิ ด วั ค ซี นยิ่งมีประสิ ทธิภาพลดลง และต้องพัฒนาวั ค ซี น generation ต่อไปไม่สิ้นสุ ดเหมือนวั ค ซี นไข้หวั ดใหญ่
ส่วนการควบคุมโ ร คโดยการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ (Regular Testing) การติ ดต ามผู้สัมผัส (Tracing) และการแยกกักตัว (Isolation) นั้นทำได้ไม่ย ากหากทุ่มเทสรรพกำลัง แต่เมื่อทำซ้ำ เช่นนี้ไปอีก 2-3 ปี ทั้งสังคมจะอ่อนล้าม าก
ทางออกที่แท้จริงของการสู้โ ค วิ ดคือ ต้องหาย ากินเพื่อหยุดการเพิ่มจำนวนของไ ว รั สตั้งแต่ระยะแรกที่เข้าสู่ร่ า งกาย ไม่ให้ไ ว รั สมีปริมาณม ากจ นลงไปที่ป อด แล้วทำให้ผู้ป่ ว ยอาการหนักจ นเสี ย ชี วิต ปัจจุบัน ย ากินหลายชนิดที่กำลังวิจัยในระยะที่ 3 เช่น Molnupiravir ก็มีแนวคิดเช่นนี้ แต่ต้องกินทันทีหลังรับเ ชื้ อ เมื่ออาการหนักแล้วย าจะไม่ได้ผ ล ถึงวันนี้ที่มี ผู้ป่ ว ยวันละหมื่น ผู้เสี ย ชี วิตวันละร้อย ประชาชนรอตรวจและรอเตียงอย่ างสิ้ นหวัง ผมคิดว่า แทนที่จะรอคว ามต า ย เราต้องหาทางแก้ไขด้วยการให้คว ามสำคั ญกับย าฟ้าทะล ายโ จ รอย่ างจริงจังเสี ยที
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีง า นวิจัยเ รื่ อ งการใช้ Andrographolide ซึ่งเป็นส า รสำคั ญในสมุนไพรฟ้าทะลา ยโ จ ร เพื่อรั กษ าโ ค วิ ดในคนด้วยระเบียบวิธีวิจัยที่เข้ มงวดแบบ Randomised Control Trial มาก่อน (แต่มีรายง า นเกี่ยวกับผ ลลั พธ์ที่มีประสิ ทธิภาพของ Andrographolide ในการยั บยั้ งการเพิ่มจำนวนไ ว รั สได้ดีกว่าย าต้านไ ว รั สหลายชนิดเช่น Lopinavir, Ostelmivir และ Ritonavir จากการคำนวณโครงสร้างของโมเลกุล-in silico และทั้งผ ลลั พธ์จากการวิจัยในห้องทดลอง
ในประเทศไทยเคยเตรียมทำวิจัยเ รื่ อ ง Andrographolide ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่จำนวนผู้ป่ ว ยโ ค วิ ดมีน้อยจึงชะ ล อไป และเพิ่งมาทำวิจั ยกันใหม่ในการร ะบ าดระล อก 2 โดยกรมแพทย์แผนไทยฯ เชิญศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสยมพร ศิรินาวิน อาจารย์แพทย์รามาธิบดี ผู้เชี่ยวชา ญทั้งด้านโ ร คติ ดเ ชื้ อและระบ าดวิทย าคลินิก อีกทั้งมีคว ามเที่ยงตรงด้านระเบียบวิธีวิจัย เป็นผู้วิจัยร่วมและตรวจสอบคว ามถูกต้องของการวิจั ย
อาจารย์สยมพรบอกผมว่า อาจารย์ไม่เคยสนใจเ รื่ อ งฟ้าทะล ายโ จ รมาก่อน จึงอย า กพิสู จ น์ว่าได้ผ ลหรือไม่ได้ผ ล และเมื่อผ ลวิจั ยปรากฎออกมาว่า Andrographolide ยั บยั้ งอาการหนักในผู้ป่ ว ยโ ค วิ ดได้ อาจารย์สยมพรจึงสนับสนุน Andrographolide อย่ างสุ ดกำลัง
จากการวิจั ยแบบ Randomised Control Trial ในกลุ่มตัวอย่าง 57 คนที่สมุทรปราการและนครปฐม พบว่า ผู้ป่ ว ยกลุ่มควบคุม (control) ซึ่งกินย าหล อก (placebo) มีอาการป อด บ ว ม 10.7% ส่วนคนที่กิน Andrographolide ไม่มีผู้ป่ ว ยป อด บ ว ม เ ล ยแม้แต่คนเดียว (0%)
อาจารย์สยมพรต้องการเพิ่มจำนวนตัวอย่ างที่วิจัยม ากขึ้น จึงเก็บข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective Cohort study) ในกลุ่มตัวอย่ าง 539 คนที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐมและราชบุรี พบว่า กลุ่มควบคุม (control) ที่ไม่ได้รับ Andrographolide มีป อด บ ว ม 24% หรือ 71 คน ส่วนกลุ่มที่ได้รับ Andrographolide มีป อด บ ว ม เพียง 0.4% หรือ 1 คน และคนที่มีป อด บ ว ม ได้รับ Andrographolide ช้า คือกินย าเมื่อรับเ ชื้ อแล้วถึง 11 วัน
ขนาดย า Andrographolide ที่ใช้ในการวิจั ยคือ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ติ ดต่ อกัน 5 วัน แคปซูลย าที่ใช้ในการวิจั ยมีส า รสกัด Andrographolide 20 มิลลิกรัม จึงให้กินวันละ 9 แคปซูล หรือ 3 แคปซูล 3 เวลาก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น แคปซูลฟ้าทะล ายโ จ รในท้องตลาดมีปริมาณส า รสกัด Andrographolide ไม่เท่ากัน ดั งนั้ น จำนวนแคปซูลที่กินก็ต้องแ ต กต่างกันไป เช่น แคปซูลฟ้าทะล ายโ จ รของอภัยภูเบศร์มีส า รสกัด Andrographolide 12 มิลลิกรัม จึงต้องกินวันละ 15 แคปซูล หรือ 5 แคปซูล 3 เวลาก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น ถ้ากินฟ้าทะล ายโ จ รไม่ถูกวิธี ไม่ถึงขนาดที่ใช้ในง า นวิจั ย คือได้รับ Andrographolide น้อยกว่า 180 มิลลิกรัมต่อวัน จะไม่สามารถยั บยั้ งการเพิ่มจำนวนของไ ว รั สได้
เมื่อมีการระบ าดใหญ่ในเรือนจำตอนกลางเดือนพฤษภาคม อาจารย์สยมพรโทรศัพท์มาเล่าให้ผมฟังถึงผ ลการวิจั ยเบื้องต้นเกี่ยวกับ Andrographolide ของอาจารย์ และขอให้ผมแ จ้ งผู้รับผิดชอบของเรือนจำ เพื่อจ่ายย าฟ้าทะล ายโ จ รแก่ผู้ต้องขั งในแดนต่าง ที่มีการระบ าดทุกคน (เนื่องจากสภาพแวดล้อมในเรือนจำทำให้ทุกคนเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เ สี่ ย ง สูง) ผมจึงส่งผ่านข้อมูลไปให้ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นทราบว่า มีการจัดย าฟ้าทะล ายโ จ รให้ผู้ต้องขั งอย่ างทั่วถึง
น่าดีใจว่า เมื่อพิจารณ าตัวเ ลขผู้ป่ ว ยหนักและผู้เสี ย ชี วิตสะสมในเรือนจำจ นถึงสัปดาห์ที่แล้วพบว่า มีอัตราต่ำกว่าผู้ป่ ว ยโ ค วิ ดภายนอกเรือนจำอย่ างมีนัยสำคัญ (อัตราผู้เสี ย ชี วิตในเรือนจำ : อัตราผู้เสี ย ชี วิตของทั้งประเทศ เท่ากับ 0.12% : 0.87%)
ผมจึงสรุปกับตัวเองว่า หากเราให้ผู้ป่ ว ยกิน Andrographolide ทันทีที่ตรวจพบเ ชื้ อ ในทางทฤษฎี Andrographolide จะไปยั บยั้ งเอ็ นไ ซม์ Main Protease (Mpro) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ไ ว รั สเพิ่มจำนวน เมื่อไ ว รั สเพิ่มจำนวนไม่ได้ อาการป่ ว ยจึงไม่รุ นแร ง ไ ว รั สไม่ลงป อด ไม่มีป อด บ ว ม ผู้ป่ ว ยไม่ต้องเข้า ICU และไม่เสี ย ชี วิต ผ ลที่ต ามมาคือ ลดจำนวนผู้ป่ ว ยหนัก ช่วยแก้ปัญหาเตียงไม่พอและข า ดแคลนแพทย์พย าบาล จ นระบบสาธารณสุขล่ มได้
ตอนสู้กับไข้หวัดนก นักระบ าดวิทย าผู้มีชื่อเสีຍงระดับโลกของกรมควบคุมโ ร คคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เราใช้ Tamiflu (Oseltamivir) ทันที เมื่อรู้ว่าผู้นั้นสัมผัสโ ร คใกล้ชิด โดยไม่รอผ ลการตรวจหาเ ชื้ อ ปรากฏว่า ช่วยลดอัตราต า ยลงไปได้ม าก กลายเป็นตำนานของการควบคุมโ ร ค H5N1 Influenza (Oseltamivir สกัดจากโ ป๊ ย กั๊ กซึ่งเป็นสมุนไพรจีน)
ดั งนั้ น ถ้าเราส่งเสริมให้ใช้ Andrographolide ในผู้ติ ดเ ชื้ อที่มีอาการน้อยและผู้สัมผัสใกล้ชิด เ สี่ ย ง สูงทันที น่าจะช่วยลดอัตราการป่ ว ยหนักจากป อด บ ว ม และลดอัตราต า ยได้ Andrographolide อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกม (Game Changer) โดยไม่ต้องรอ Molnupiravir ซึ่งไม่ทราบว่าจะรายง า นผ ลการวิจั ยระยะที่ 3 เมื่อใด จะได้รับอนุมั ติจาก FDA ของอเมริกาเมื่อใด จะวางขายเมื่อใด และราคาขายจะเป็นเท่าไร (ปัจจุบันส า รสกัด Andrographolide ต ามขนาดที่ใช้ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ติ ดต่ อกัน 5 วัน ราคาประมาณ 200 บาท)
กระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์ผู้รับผิดชอบจัดทำ Clinical Practice Guideline (CPG) ควรรีบแก้ไข CPG โดยบรรจุ Andrographolide ในตำรับย าที่ใช้รั กษ าโ ค วิ ด เพราะโรงพย าบาลบางแห่งยังสั่งห้ามผู้ป่ ว ยโ ค วิ ดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยกินย า Andrographolide เพราะอ้ างว่าไม่มีระบุไว้ใน CPG
ส่วนสำนักง า นหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ควรบรรจุ Andrographolide ในชุดเครื่องใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่ ว ยมีอาการน้อยที่กั กตั วที่บ้านและชุมชน เพิ่มจากการให้ปร อทวัดไข้และเครื่องวัดออ กซิเจ นปลายนิ้ว (Oximeter) ที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งแจกจ่ายให้ผู้มาตรวจคัดกรองในหน่วยตรวจโ ค วิ ดเคลื่อนที่ทุกคน เพราะประชาชนเหล่านั้นต่างเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งสิ้ น
รายการฟ้าทะล ายโ จ รที่มีจำหน่าย
วิธีและข้อห้าม
สรุปได้ว่ากิน Andrographolide ทันทีที่ตรวจพบเ ชื้ อ ในทางทฤษฎี Andrographolide จะไปยั บยั้ งเอ็ นไซ ม์ Main Protease (Mpro) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ไ ว รั สเพิ่มจำนวน เมื่อไ ว รั สเพิ่มจำนวนไม่ได้ อาการป่ ว ยจึงไม่รุ นแร ง ไ ว รั สไม่ลงปอด ไม่มีป อด บ ว ม ผู้ป่ ว ยไม่ต้องเข้า ICU และไม่เสี ย ชี วิต ผ ลที่ต ามมาคือ ลดจำนวนผู้ป่ ว ยหนัก ช่วยแก้ปัญหาเตียงไม่พอและข า ดแคลนแพทย์พย าบาล จ นระบบสาธารณสุขล่ มได้
ขอบคุณที่มาจาก สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี